

ปลดล็อก กัญชา กัญชง พืชเศรษฐกิจใหม่
หลังจากรัฐบาลได้ปลดล็อกการปลูกเสรีพืชกัญชา-กัญชง ถือว่าเป็นโอกาศในทางธุรกิจอย่างมาก เพราะในตลาดโลก ทั้งกัญชาและกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจใหม่และมีมูลค่าทางการตลาดที่ใหญ่มาก ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ เพราะกัญชาและกัญชง เป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ในวงกว้าง ตั้งแต่ในวงการแพทย์ เครื่องสำอาง น้ำหอม ผลิตภัณฑ์สปา เสื้อผ้า รวมถึงอาหารและเครื่องดื่ม
อย่างไรก็ตามก็ต้องขออนุญาตตามกฏระเบียบของรัฐ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดได้ในข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขในลิงค์ท้ายบทความ
ทิศทาง และนโยบายของ อย. ในการสนับสนุนประชาชนให้เข้าถึง “กัญชา-กัญชง” อย่างถูกต้อง
Credit to สํานักข่าวไทย TNAMCOT
ต้นกัญชา (Cannabis) vs. กัญชง (Hemp)
ต้นกัญชา (Cannabis) กับ ต้นกัญชง (Hemp) มีความคล้ายกันมาก แต่ก็มีข้อสังเกตุ

ต้นกัญชา ใบสีเขียวเข้ม เรียวยาว ลำต้นเตี้ยเป็นพุ่มสูงไม่เกิน 2 เมตร เมล็ดมีขนาดเล็ก ผิวมันวาว
ต้นกัญชง ใบสีเขียวอ่อน กว้าง ลำต้นเรียว สูง ดอกมีขนาดเล็ก สีเหลือง เมล็ดมีขนาดใหญ่ ผิวเมล็ดเรียบ มีลาย
ปัจจัยหลักที่กำหนดความแตกต่างระหว่างกัญชาและกัญชงคือปริมาณของสาร THC (tetrahydrocannabinol) ‘กัญชา’ มีสาร THC ในปริมาณ “สูง” อย่างชัดเจน ซึ่งมีผลต่อระบบประสาท ทำให้เกิดการมึนเมา ส่วน ‘กัญชง’ มีความเข้มข้น THC น้อยกว่า และเน้นใช้สาร CBD
กัญชา THC > 1%, CBD < 2%
กัญชง THC < 1%, CBD > 2%
จะเห็นว่าปริมาณสาร THC คือสารหลักในการนำไปใช้ของกัญชาและกัญชง
การอนุญาตใช้สารดังกล่าวก็จะแตกต่างกันในแต่ละประเทศ
เนื่องจาก ในดอกและเมล็ดกัญชามีสาร THC ในปริมาณสูง ปัจจุบันรัฐบาลอนุญาตให้ใช้ ทางการแพทย์เท่านั้น
เนื่องจากเราจะเน้นการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสปา ดังนั้นเราจะใช้ CBD ในกัญชง ซึ่งกฏระเบียบของประเทศไทยกำหนดว่าการใช้สาร CBD ในกัญชงต้องมีสาร THC ไม่เกิน 0.2%

ส่วนของ 'กัญชง' ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เมล็ดกันชง มีน้ำมันประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์และเป็นแหล่งของโปรตีน ไฟเบอร์ และแมกนีเซียม
เมล็ดกัญชง นับเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ สามารถกินดิบได้ มักใช้โรยบนสลัดหรือผสมกับสมูทตี้ผลไม้ นมเมล็ดกัญชง ใช้แทนนมในเครื่องดื่มและสูตรอาหาร
ใยกัญชง เส้นใยได้มาจากส่วนก้าน ใช้ในการผลิตเส้นใยสำหรับเสื้อผ้า เยื่อกระดาษ พลาสติกชีวภาพที่สามารถนำไปรีไซเคิลและย่อยสลายได้ทางชีวภาพ
ใบกัญชงในเครื่องสำอาง
เนื่องจากสาร CBD จากกัญชงมีสรรพคุณ ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ช่วยผลัดเซล์ลผิว ลดผมขาดหลุดร่วง ป้องกันแสง UV จึงสามารถนำมา ผสมในเครื่องสำอาง
ปัจจุบันผู้ประกอบการได้รับอนุญาต ให้ใช้ส่วนของ ‘กัญชง’ ในธุรกิจเครื่องสำอางได้ แต่ยกเว้นพวก ‘ช่อดอก’ และ ‘เมล็ด’
สรรพคุณอื่นๆ ของ 'กัญชง'

นอกจากนี้ น้ำมันจากเมล็ดกัญชงสามารถใช้ทำสีในงานวาดภาพ และใช้เป็น น้ำมันพืชเพราะมีจุดเดือดต่ำ ควันน้อย

ปลายปี 2564 ต่อต้นปี 2565 เกษตรกรทั่วไป น่าจะได้รับเมล็ดพันธุ์ และเริ่มปลูกและเราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ เริ่มออกสู่ท้องตลาดมากขึ้นในกลางปี 2565
Karnraphee Herbal Cosmetics เราเน้นการใช้พืชและสมุนไพรที่มาจากเกษตรกรไทยเป็นหลัก เพื่อนำสารสกัดมาต่อยอดในธุรกิจเครื่องสำอาง และเราได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากพืชและสมุนไพรไทยอย่างต่อเนื่อง
การใช้สาร CBD ที่มาจากกัญชง ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่ม ที่จะนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อประโยชน์สูงสุดตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ และผู้บริโภค
ข้อมูลกัญชา กัญชง กระทรวงสาธารณสุข https://www.fda.moph.go.th/Pages/Cannabis_About.html
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการปลูกกัญชา/กัญชง https://kasetdb.agr.ku.ac.th/foa-e-learning/courses/canna001/